รถยนต์จอดทิ้งไว้นานมีกลิ่นอับต้องทำยังไง วันนี้เรามีวิธีมาบอกกัน
เมื่อคุณต้องทิ้งรถยนต์ไว้โดยไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ปัญหาที่มักตามมาคือกลิ่นอับและการเกิดเชื้อราในรถยนต์ ซึ่งนอกจากจะสร้างความไม่สะดวกสบายในการใช้รถแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพอีกด้วย การดูแลรักษารถยนต์ที่ไม่ได้ใช้บ่อยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นและเชื้อราที่จะทำให้ภายในรถเสื่อมสภาพ บทความนี้จะมาแนะนำ วิธีดูแลรักษารถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นานไม่ให้เกิดกลิ่นและเชื้อรา ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดภายในรถก่อนจอด
การทำความสะอาดภายในรถยนต์ ก่อนจอดทิ้งไว้เป็นเวลานานเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น คราบสกปรก และความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ คุณควรเช็ดถูพื้นผิวภายในรถทุกจุด เช่น คอนโซล แผงประตู และพรม ให้สะอาดหมดจด
- ใช้ น้ำยาทำความสะอาดภายในรถ ที่มีประสิทธิภาพ เช่น น้ำยา Easy Easy เพื่อขจัดคราบฝังแน่นและฆ่าเชื้อโรค
- อย่าลืมทำความสะอาด เบาะนั่งและพรม ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา
2. เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ
ก่อนที่จะจอดรถทิ้งไว้นานๆ ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้ อากาศถ่ายเท ช่วยลดความชื้นภายในรถ เมื่อความชื้นภายในรถน้อยลง จะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับได้ดี
- หากจอดในที่ร่ม สามารถแง้มกระจกหน้าต่างลงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศภายในรถหมุนเวียน
- การใช้ ถุงดูดความชื้น วางไว้ภายในรถก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความชื้นภายในรถได้
3. ตรวจสอบระบบระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ
การใช้งาน ระบบระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ อย่างถูกต้องช่วยป้องกันการสะสมของความชื้นภายในท่อแอร์ ซึ่งเป็นจุดที่เชื้อรามักเจริญเติบโต หากจอดรถทิ้งไว้นาน ควรเปิดแอร์และระบบระบายอากาศให้ทำงานเป็นระยะๆ เพื่อช่วยขจัดความชื้นออกไป
- ควรทำความสะอาด ฟิลเตอร์อากาศ ภายในรถเป็นประจำ เพื่อให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เมื่อเปิดแอร์ในครั้งแรกหลังจากไม่ได้ใช้งานรถนานๆ ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ระหว่างเปิดแอร์ เพื่อให้อากาศที่หมุนเวียนได้ถูกเปลี่ยนออกไป
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่นอับและป้องกันเชื้อรา
การใช้ ผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่นและป้องกันเชื้อรา ภายในรถจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดกลิ่นอับและเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือสเปรย์ขจัดกลิ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในรถยนต์โดยเฉพาะ
- ฉีด น้ำยาขจัดกลิ่น และเชื้อราในบริเวณเบาะนั่งและพรมเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
- ใช้ น้ำยาลบคราบในรถ ที่มีสารป้องกันเชื้อรา เพื่อทำความสะอาดบริเวณที่อาจเกิดความชื้นสะสมได้ง่าย
5. หลีกเลี่ยงการทิ้งของที่เป็นแหล่งความชื้นในรถ
การทิ้งของบางอย่างไว้ในรถที่อาจเป็นแหล่งความชื้น เช่น ขวดน้ำ อาหาร หรือเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ควรนำของเหล่านี้ออกจากรถทันทีหลังใช้งานเสร็จ
- อาหารและเครื่องดื่ม ที่ทิ้งไว้ในรถจะทำให้เกิดกลิ่นอับเร็วขึ้น และอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
- หากมีการใช้ ผ้าห่มหรือเสื้อผ้า ที่เปียก ควรนำออกไปตากให้แห้งก่อนนำกลับเข้ามาในรถ
6. จอดรถในที่ที่มีการถ่ายเทอากาศดี
สถานที่จอดรถมีผลต่อการสะสมความชื้นภายในรถ หากจอดรถในที่ร่มที่มีการถ่ายเทอากาศไม่ดี เช่น ในโรงจอดรถที่ปิดทึบ อาจทำให้เกิดการสะสมของความชื้นได้ง่าย ควรจอดรถในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดีหรือใช้ผ้าคลุมรถเพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้น
- การ จอดรถในที่โล่ง และมีลมพัดผ่านจะช่วยลดการสะสมของความชื้นในรถ
- หากจำเป็นต้องจอดในที่อับ ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เล็กน้อยเพื่อให้อากาศหมุนเวียน
7. สตาร์ทรถและขับขี่เป็นระยะ
หากคุณต้องจอดรถทิ้งไว้นานๆ ควรสตาร์ทรถและขับขี่เป็นระยะๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้ระบบต่างๆ ภายในรถทำงานและช่วยระบายความชื้น นอกจากนี้ การขับรถยังช่วยให้แบตเตอรี่และเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างปกติ
- การสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดระบบแอร์เป็นระยะๆ จะช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อราในระบบปรับอากาศ
- ขับรถระยะสั้นๆ เพื่อให้ ระบบเบรกและเครื่องยนต์ ทำงานปกติ และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
สรุป
การดูแลรักษารถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นาน ไม่ให้เกิดกลิ่นและเชื้อราเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะหากต้องจอดรถไว้นานๆ การทำความสะอาดภายในรถก่อนจอด การระบายอากาศ และการใช้น้ำยาป้องกันเชื้อรา จะช่วยรักษาสภาพภายในรถให้สะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรคได้ อย่าลืมสตาร์ทรถเป็นระยะเพื่อให้ระบบต่างๆ ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นและความชื้นภายในรถอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น น้ำยา Easy Easy ที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดและป้องกันการสะสมของเชื้อราในรถยนต์โดยเฉพาะ
#น้ำยาลบคราบในรถ #น้ำยาEasyEasy #น้ำยาเช็ดในรถ #น้ำยาเช็ดภายในรถยนต์